ห้องสมุดเชิงบวก/Well-being Creators Workshop

Well-being Creators Workshop

Well-being Creators Workshop

หลักสูตรสำหรับนักสร้างความสุข ด้วยจิตวิทยาเชิงบวก

จัดขึ้นในวันที่ 21-22 มิถุนายน 2568 ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่



ที่มาของโครงการ

โครงการ Well-being Creators ดำเนินการโดย Mindset Maker ซึ่งเป็นผู้รับทุนในการสนับสนุนโดยกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการขับเคลื่อนแพลตฟอร์มจิตวิทยาเชิงบวก เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงองค์ความรู้และเครื่องมือด้านจิตวิทยาเชิงบวกได้


กิจกรรม Well-being Creators Workshop จัดขึ้นในวันที่ 21-22 มิถุนายน 2568 เวลา 9:00-16:00 น. โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็น กลุ่มนักศึกษาและบุคคลในพื้นที่ใกล้เคียงมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมีการออกแบบการเรียนรู้และพัฒนาทักษะเพื่อเป็นกลุ่มผู้นำในพื้นที่นำร่อง (Change Agent) โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็น Well-being Creators ทั้งหมด 41 คน แบ่งออกเป็น 9 กลุ่ม ซึ่งในปัจจุบัน โครงการนี้เริ่มทำงานในพื้นที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นที่แรก โดยมีเป้าหมายในการสร้างแกนนำนักศึกษาที่มีองค์ความรู้และคลังเครื่องมือเพียงพอ ในการจัดกิจกรรมส่งต่อความรู้ด้านการสร้างเสริมสุขภาวะทางจิตตามแนวทางด้านจิตวิทยาเชิงบวกต่อไป

เป้าหมายของกิจกรรม

เป้าหมายหลักของกิจกรรมนำร่องนี้ เพื่อให้กลุ่ม Well-being Creators ได้เกิดการเรียนรู้ในประเด็นต่อไปนี้

  1. เปิดประสบการณ์การสร้างปฏิสัมพันธ์เชิงบวก

  2. มีประสบการณ์ในการทดลองใช้เครื่องมือจิตวิทยาเชิงบวก

  3. เข้าใจการออกแบบและทักษะการดำเนินกระบวนการสร้างการเรียนรู้โดยประยุกต์ใช้เครื่องมือจิตวิทยาเชิงบวกในการสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต

กิจกรรม Well-being Creators Workshop ทำอะไรกันบ้าง ?

กิจกรรมทั้งสองวันเต็มไปด้วยบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านการสร้างประสบการณ์เชิงบวก โดยเน้นไปที่ประเด็นของจิตวิทยาเชิงบวก เครื่องมือ และการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ โดยแนวคิดหลักที่นำมาประยุกต์ใช้ ได้แก่ แนวคิด PERMA Model ของ Martin E.P. Seligman ซึ่งเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการสร้างเสริมปัจจัยเชิงบวกของบุคคลที่นำไปสู่เป้าหมายสูงสุดคือ ความเจริญงอกงามทางจิตใจในตัวบุคคล (Flourishing)


ภายในกิจกรรม ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ในการใช้เครื่องมือจิตวิทยาเชิงบวก และสะท้อนการเรียนรู้เพื่อถอดบทเรียนในแต่ละเครื่องมือ โดยชุดกิจกรรมที่ดำเนินการ ครอบคลุมตามองค์ประกอบของสุขภาวะ (PERMA Model) ตามแนวทางของจิตวิทยาเชิงบวก ได้แก่

  1. Positive Emotion (P) คือ การที่เรามีอารมณ์ดี ๆ ในแต่ละวัน โดยเป็นคำที่หลากหลายกว่าแค่คำว่า ‘มีความสุข’ จากการวิจัยของ Barbara Fredrickson ได้กำหนด 10 อารมณ์เชิงบวก ที่แตกต่างกัน ได้แก่ ความสนุกสนาน ความรู้สึกขอบคุณซาบซึ้ง ความรู้สึกสงบ การมีแรงบันดาลใจ การมีความหวัง ความรู้สึกรัก ความรู้สึกเคารพ ความรู้สึกเพลิดเพลิน การมีความตื่นเต้นสนใจ และรู้สึกภาคภูมิใจ

  2. Engagement (E) คือ การมีส่วนร่วม เมื่อเรารู้สึกร่วมและสนุกไปกับสิ่งที่ทำจนกระทั่งเผลอลืมเวลา ซึ่งเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า "ลื่นไหล (flow state)" หรือการจดจ่อกับสิ่งที่ทำจนเพลิน ในภาวะนี้ เราจะไม่รู้สึกกังวลในเรื่องอื่น ๆ หรือรู้สึกเบื่อหน่าย

  3. Relationship (R) คือ ความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเอง และระหว่างตัวเรากับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน คนรัก คนที่ทำงาน หรือคนอื่น ๆ ในสังคม ในความสัมพันธ์ที่ดี เราจะต้องรู้สึกว่าได้รับความรัก รู้สึกว่ามีคนเห็นคุณค่า และพร้อมที่จะสนับสนุนเราเสมอ รวมทั้งต้องสามารถทำให้คนรอบข้างเรารู้สึกเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการรักษาความสัมพันธ์นั้น

  4. Meaning (M) คือ การรู้จักตัวเองมากขึ้น และการรับรู้ว่านอกเหนือจากเงิน สิ่งที่ทำอยู่นั้นคืออะไร และทำไปเพื่ออะไร ความหมายของการใช้ชีวิตของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้จะทำให้ตัวเรารู้สึกมีคุณค่า มีจุดหมาย และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับบางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเรา

  5. Accomplishment (A) คือ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้ทุกช่วงเวลา ทั้งเรื่องเล็กในชีวิตประจำวัน (เช่น กินข้าวหมดจาน ได้อ่านหนังสือ ได้เลิกงาน) และเรื่องใหญ่ที่ต้องใช้ความพยายาม (เช่น การสอบติดมหาลัย การสัมภาษณ์งาน การลดน้ำหนัก) ความสำเร็จเหล่านี้ถือเป็นพลังและเป็นแรงใจให้เราทำสิ่งอื่น ๆ สำเร็จต่อไปได้

  6. Health (H) คือ เป็นส่วนสำคัญที่เพิ่มเข้ามานอกเหนือจาก PERMA Model ทั้ง 5 องค์ประกอบหลัก การดูแลสุขภาพกายให้ดีนั้นนำมาสู่ชีวิตที่มีคุณภาพ โดยการนอนหลับนั้นเป็นส่วนสำคัญในการรักษาทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจ เมื่อเรานอนหลับในเวลาที่เหมาะสม (7-8 ชั่วโมงติดกันในช่วงกลางคืน) เราย่อมรู้สึกสดชื่นแจ่มใส พร้อมต่อการทำกิจกรรมและรับมือกับสิ่งที่จะเข้ามา แต่หากนอนไม่พอ ก็อาจมีแนวโน้มที่เราจะมีอารมณ์หรือความคิดเชิงลบมากขึ้นตามมาได้


นอกจากนี้ ภายในกิจกรรม ผู้เข้าร่วมยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบกิจกรรมและวางเป้าหมายผ่านหลักการ GROW Model โดยต้องมีการตั้งเป้าหมาย (Goal) วิเคราะห์ความเป็นจริง (Reality) วิเคราะห์ทางเลือก (Options) และวางแผนสิ่งที่จะทำต่อจากนี้ (Will) เพื่อนำไปจัดกิจกรรมส่งต่อความสุขด้วยเครื่องมือจิตวิทยาเชิงบวกอย่างเป็นรูปธรรมใน 4 สัปดาห์หลังจากนี้


2025/10/24
บทความที่คุณอาจสนใจ